Skip to content
STEMMED CLINICSTEMMED CLINIC
STEMMED CLINIC
คลินิกศัลยกรรม
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ
  • บริการของเรา
    • Stemmed Check Up Program
      • Basic Check up Program
      • Special Check Up Program
    • Stemmed Detoxification Program
      • Chelation Therapy
      • Liver Detoxification
      • Colon hydrotherapy
      • Oxygen Therapy
      • Vacu Med การล้างพิษระบบน้ำเหลือง
    • Stemmed Regenerative Program
      • OZONE Therapy
      • Vitamin IV Drip
      • Acupuncture การฝังเข็ม
      • Platelet Rich Plasma (PRP)
      • Anti-Aging
  • ผิวพรรณ
    • รูขุมขนกว้าง รอยสิว ผิวหน้ากระชับ
    • ผิวกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
    • การปรับรูปหน้า
      • การฉีดสารโบโทลินัม
      • Filler
      • Thread Lift
  • ผู้ใช้บริการ
  • บทความสุขภาพ
  • ติดต่อเรา
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ
  • บริการของเรา
    • Stemmed Check Up Program
      • Basic Check up Program
      • Special Check Up Program
    • Stemmed Detoxification Program
      • Chelation Therapy
      • Liver Detoxification
      • Colon hydrotherapy
      • Oxygen Therapy
      • Vacu Med การล้างพิษระบบน้ำเหลือง
    • Stemmed Regenerative Program
      • OZONE Therapy
      • Vitamin IV Drip
      • Acupuncture การฝังเข็ม
      • Platelet Rich Plasma (PRP)
      • Anti-Aging
  • ผิวพรรณ
    • รูขุมขนกว้าง รอยสิว ผิวหน้ากระชับ
    • ผิวกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
    • การปรับรูปหน้า
      • การฉีดสารโบโทลินัม
      • Filler
      • Thread Lift
  • ผู้ใช้บริการ
  • บทความสุขภาพ
  • ติดต่อเรา

          โรคลมปัจจุบัน หรือ โรคลมเหตุหลอดเลือดสมอง หรือที่รู้จักกัน คือ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นการหยุดการทำงานของสมองอย่างฉับพลันโดยมีสาเหตุจากการรบกวนหลอดเลือดที่เลี้ยงสมอง โรคนี้อาจเกิดจากการขาดเลือดเฉพาะที่ของสมอง (ischemia) ซึ่งมีสาเหตุจากภาวะหลอดเลือดมีลิ่มเลือด (thrombosis) หรือภาวะมีสิ่งหลุดอุดหลอดเลือด (embolism) หรืออาจเกิดจากการตกเลือด (hemorrhage) ในสมอง ผลจากภาวะดังกล่าวทำให้สมองส่วนที่ขาดเลือดหรือตกเลือดทำงานไม่ได้ และอาจส่งผลทำให้อัมพาตครึ่งซีก (hemiplegia; ไม่สามารถขยับแขนขาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือซีกใดซีกหนึ่ง) ไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจหรือพูดได้ หรือตาบอดครึ่งซีก (hemianopsia; ไม่สามารถมองเห็นครึ่งซีกหนึ่งของลานสายตา) ทั้งนี้ถ้ามีความรุนแรงมาก อาจทำให้ถึงตายได้

          โรคนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ซึ่งสามารถทำให้เสียการทำงานของระบบประสาทอย่างถาวร อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมายทำให้พิการและเสียชีวิตได้ นับเป็นสาเหตุหลักของความพิการในสหรัฐอเมริกาและยุโรป และเป็นสาเหตุการตายอันดับที่สองของทั่วโลก และกำลังจะขึ้นเป็นสาเหตุการตายอันดับแรกในไม่ช้า

ปัจจัยเสี่ยง  

          ปัจจัยเสี่ยงของโรคลมปัจจุบันได้แก่ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ การใช้ยาเสพติดและยารักษาโรคบางประเภท ความชรา น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ประวัติการเป็นโรคลมปัจจุบันในอดีต หรือภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (transient ischemic attack, TIA) เบาหวาน ภาวะเลือดมีคอเลสเทอรอลสูง การรับประทานอาหารที่มีเกลือสูงเสมอๆ และอาการหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว (atrial fibrillation) ซึ่งความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคนี้

 

สัญญาณบอกโรค

ในสหรัฐอเมริกา มีสัญญาณบอกโรคที่สำคัญอยู่ 5 อย่าง คือ

  • การชาและอ่อนแรงตามใบหน้า แขน-ขา อย่างฉับพลัน
  • สับสนหรือมีปัญหาในการพูดหรือเข้าใจภาษาอย่างฉับพลัน
  • สายตามีปัญหาอย่างฉับพลัน
  • การทรงตัว การเดินมีปัญหา หรือรู้สึกมึนงงอย่างฉับพลัน
  • ปวดหัวอย่างรุนแรงและฉับพลัน

ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการดังกล่าว มิควรมองข้ามอาการเหล่านี้ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการรุนแรงหรือมีอาการหลายๆอย่างประกอบกันในคราวเดียว ทั้งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงด้วยแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือให้ผู้ที่ใกล้ชิดพาส่งโรงพยาบาลทันที เพราะหากปล่อยไว้นานเท่าไร โอกาสที่จะเกิดความเจ็บป่วย พิการและตาย ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

 

อาการของโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต

อาการจากโรคอัมพาตโรคอัมพฤกษ์เป็นอาการที่เกิดทันที เป็นนาทีหรือชั่วโมง โดยอาการขึ้นกับตำแหน่งสมองส่วนที่ขาดเลือด ซึ่งที่พบบ่อยได้แก่

  • แขน ขา ครึ่งซีกอ่อนแรงทันที
  • ใบหน้า ชา เบี้ยวครึ่งซีก
  • สับสน พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง หรือพูดไม่ได้
  • กลืนอาหารลำบาก สำลัก
  • อาจมีตาพร่า มองเห็นภาพไม่ชัด หรือเห็นภาพเพียงบางส่วน หรือเห็นภาพได้แคบลง
  • อาจหายใจเหนื่อยหอบ ติดขัด/หายใจลำบาก
  • มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้
  • ปวดศีรษะรุนแรงทันที
  • ถ้าเกิดจากมีเลือดออกในสมอง ความดันในสมองมักขึ้นสูงส่งผลให้เกิดคลื่นไส้อาเจียน
  • เมื่อมีอาการมาก อาจหมดสติ โคม่า และเสียชีวิต (ตาย) ในที่สุด

อาการสำคัญที่สุดที่ช่วยการวินิจฉัยโรคอัมพาตโรคอัมพฤกษ์หรือโรคหลอดเลือดสมอง ประกอบด้วย 4 อาการหลักที่เรียกว่า ฟาส (FAST) คือ

F : Facial palsy คือ ใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว
A : Arm drip คือ แขนอ่อนแรง ไม่มีแรง
S : Speech คือ พูดไม่ชัด พูดไม่ได้
T : Time คือ มีอาการ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ภายใน 4.5 ชั่วโมง

การตรวจวินิจฉัย

แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายทางระบบประสาท  และระบบที่เกี่ยวข้อง อย่างละเอียดร่วมกับส่งตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฎิบัติการ    และตรวจภาพรังสีวิจนิจฉัย ในปัจจุบันมีวิธีการตรวจวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สามารถบ่งชี้ถึงตำแหน่งของสมองและหลอดเลือดที่ผิดปกติ อีกทั้งภาวะและสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ เช่น

+ การตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือ เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI/MRA) เพื่อดูว่าสมองมีภาวะขาดเลือดหรือภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่

+ การตรวจอัลตราซาวนด์หลอดเลือดบริเวณคอ (Carotid Duplex Ultrasound) เพื่อดูหลอดเลือดคอ และการไหลเวียนของเลือดบริเวณคอที่ไปเลี้ยงสมองด้วยคลื่นเสียงความถื่สูง

+ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram)

+ การตรวจเลือดเพื่อดูความเข้มข้นและความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับน้ำตาล ไขมันในเลือด การทำงานของไตและตับ

+ การตรวจระดับเกลือแร่ในเลือด (Electrolyte) ช่วยแยกภาวะเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ เช่น เกลือแร่ต่ำ อาจทำให้มีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง

 

การรักษา

การรักษาขึ้นกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองว่าเป็นหลอดเลือดตีบหรือหลอดเลือดแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน

+ หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน ในปัจจุบันมีการให้ยาละลายลิ่มเลือด (rtPA : recombinant tissue plasminogen activator) ในผู้ป่วยที่มีอาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลันที่มีข้อบ่งชี้และไม่มีข้อห้ามต่อการให้ยาและมีอาการในระยะเวลา

ไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง เมื่อติดตามผู้ป่วยที่ได้รับยาเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยา พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า ดังนั้นผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติสงสัยว่ามีภาวะหลอดเลือดสมองควรรีบมาโรงพยาบาลเร็วที่สุดเพื่อให้ได้การวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที

+ หลอดเลือดสมองแตก เป้าหมายของการรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต ในบางกรณีที่เลือดออกมาก อยู่ในดุลพินิจของศัลยแพทย์ระบบประสาทว่าจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดร่วมด้วยหรือไม่

หมวดหมู่: บทความเกี่ยวกับสุขภาพBy adminตุลาคม 17, 2020แสดงความคิดเห็น

ผู้เขียน admin

Post navigation

PreviousPrevious post:ลิ่มเลือด เกิดขึ้นได้อย่างไร?NextNext post:โรคเบาหวาน ที่ไม่เบาตามชื่อ

Related Posts

โรคอ้วนกับวัยทีน ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม
พฤศจิกายน 25, 2022
ความสมดุลระดับกรดไขมัน สำคัญอย่างไร?
ตุลาคม 20, 2022
ลำไส้ภูมิคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย
กันยายน 5, 2022
เลือดออกตามไรฟัน จากการขาดวิตามิน C
สิงหาคม 3, 2022
อาการ “วัยทอง”
กรกฎาคม 6, 2022
แพ้อาหาร เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
มิถุนายน 7, 2022

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของท่านจะไม่ถูกแสดง

clear formแสดงความคิดเห็น

ติดตามเรา
Facebook By Weblizar Powered By Weblizar
ปฏิทิน
มกราคม 2023
จ อ พ พฤ ศ ส อา
« พ.ย.    
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031  
เกี่ยวกับเรา

สเต็มเมดคลินิก (จตุรเวชคลินิก เดิม) จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2550

เป็นสถานบริการด้านสุขภาพและความงาม
เน้นบริการเกี่ยวกับเวชศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพ (Regenerative medicine)
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมนี การบริการด้านขจัดสารพิษ และการให้บริการด้านผิวพรรณและความงาม
โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์มากว่า 10 ปี
อีกทั้งยังมีการให้คำปรึกษาการรักษาโรคเรื้อรัง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วย

© copyright www.stemmedclinic.com
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ
  • บริการของเรา
    • Stemmed Check Up Program
      • Basic Check up Program
      • Special Check Up Program
    • Stemmed Detoxification Program
      • Chelation Therapy
      • Liver Detoxification
      • Colon hydrotherapy
      • Oxygen Therapy
      • Vacu Med การล้างพิษระบบน้ำเหลือง
    • Stemmed Regenerative Program
      • OZONE Therapy
      • Vitamin IV Drip
      • Acupuncture การฝังเข็ม
      • Platelet Rich Plasma (PRP)
      • Anti-Aging
  • ผิวพรรณ
    • รูขุมขนกว้าง รอยสิว ผิวหน้ากระชับ
    • ผิวกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
    • การปรับรูปหน้า
      • การฉีดสารโบโทลินัม
      • Filler
      • Thread Lift
  • ผู้ใช้บริการ
  • บทความสุขภาพ
  • ติดต่อเรา
top