>>เมื่อพูดถึงระบบภูมิคุ้มกัน หลายคนไม่เคยรู้เลยว่า “ลำไส้” นั้น เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความสำคัญต่อ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่น้อยเลยที่เดียว ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ของคนเรามีหลายรูปแบบมาก และมีความเกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ
>>ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า 70% มาจาก #ลำไส้ และอีก 30% มาจากจิตใจ ซึ่ง 7 ใน 10 ของเซลล์ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน จะอยู่ที่เยื่อบุลำไส้ ( Mucous Membrane ) โดยเฉพาะตรงเยื่อบุลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากต้องการจะเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายต้องอาศัยเซลล์เหล่านี้ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ แบคทีเรียในลำไส้ ที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำไมถึงบอกว่าลำไส้คือภูมิคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ เพราะว่า ลิมโฟไซต์ชนิดเซลล์ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในลำไส้ มากถึง 70% ตรงบริเวรณเซลล์บีในร่างกาย ซึ่งจะสร้างแอนติบดี้ถึงวันละ 3.5 กรัม ในชั้นลามินาโพรเพรีย ( Lamina Propria ) ของเยื่อบุ โดยส่วนใหญ่จะเป็น IgA จับกับโปรตีน เพื่อหลั่ง Epithelium Cell ออกสู่ภายนอกเซลล์ กระจายไปทั่วเยื่อบุระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ นอกจากจะสร้างระบบ IgA เพื่อปกป้องเยื่อบุแล้ว ยังสร้างระบบ IgG เพื่อให้เข้าสู่กระแสเลือด เพื่อช่วยในการปกป้องทั้งร่างกาย ถือได้ว่า เป็นระบบภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะสามารถปกป้องร่างกายได้ถึง 2 ชั้น
>>ถ้าจะศึกษาลงไปให้ลึก เซลล์บุผิวของระบบทางเดินอาหาร จะพบลิมโฟไซต์ และถัดลงไป ก็จะเป็นชั้นลามินาโพรเพรีย ซึ่งเป็นตัวช่วยเก็บสะสมเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันไว้จำนวนมากในส่วนของเซลล์บี จะทำการผลิตแอนติบอดี ซึ่งเป็นพลังของระบบภูมิคุ้มกันแบบ ฮิวมอรัล ส่วนเซลล์ทีในลำไส้จะทำการแสดงพลังที่เข้มแข็งของระบบภูมิคุ้มกันแบบเซลล์ออกมาก
“เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นวันละ 5,000 เซลล์” ซึ่งเซลล์เหล่านี้ เดิมก็เป็นเซลล์ปกติในร่างกาย แต่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่มีพลังมากพอที่จะแยกแยะ และจัดการเซลล์มะเร็งได้ แต่เมื่อเซลล์ได้รับการบ่มที่แผงเพเยอร์ ก็จะทำให้เซลล์มีการตื่นตัวถูกกระตุ้นขึ้นมา ทำให้มีพลังเข้มเข็ง สามารถจัดการเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย คือ แบคทีเรียในลำไส้นั่นเอง
ได้เวลา ดีท๊อกซ์ ลำไส้ กันแล้ว
ดีท็อกซ์ คือ อะไร
Detox ย่อมาจากคำว่า Detoxification หมายถึง กระบวนการในการล้างสารพิษ (Toxin) ออกจากร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ การสวนทวาร การกินเจ 90%ของโรคเกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า การสะสมพิษ เช่น อุจจาระตกค้าง ตะกรัน (Chronic dunk) ที่ลำไส้ใหญ่ หรือ อาการท้องผูก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ และเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่าย โรคที่เกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่ เช่น เบาหวาน ความดัน โคเลสเตอรอล เส้นเลือดในสมองแตก หลอดเลือดตีบตัน หัวใจ หลอดเลือดหัวใจตีบ ไมเกรน ปวดหัว อัมพาต มะเร็ง ผิวหนัง ภูมิแพ้ ภูมิเพี้ยน (SLE) เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สิวเสี้ยน สิวอักเสบ ฝ้า กระ ผิวหยาบกร้าน กลิ่นกาย กลิ่นปาก ปวดหลัง ปวดคอ ปวดข้อ ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวง พุงโต น้ำหนักเกิน

การดีท๊อกซ์ (Detox) เป็นการทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกของเสีย กากอาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ให้หมดไป เนื่องจากของเสียเหล่านี้ มักถูกขับถ่ายออกได้ไม่หมด เพราะลำไส้ของเรายาวหลายเมตร ทั้งยังขดตัวไปมาไม่ว่าเรารับประทานอะไรเข้าไปล้วนมีโอกาสติดค้างอยู่ในลำ ไส้ทั้งสิ้น
ประโยชน์ของการดีท็อกซ์
1.) ช่วยทำความสะอาดลำไส้ และแบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย
2.) เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น
3.) ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลดอาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้
4.) กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
5.) ลดการสะสมของสารพิษ